ดอกไม้ที่กลับมา ลูกกรุงเสียงละเมียดอารมณ์ละไม ปาน ธนพร แวกประยูร โดย พอล เฮง

ที่มาเพจ : 2read

‘รู้อยู่เต็มอกซึ้งอยู่ในใจว่าเขาไม่รัก สุดจะหักห้ามดวงใจดับไฟเสน่หา… ’
กังวานก้องเสียงร้องที่บรรลุลึกซึ้งถึงอารมณ์เพลงของ ปาน-ธนพร แวกประยูร ได้เปล่งความรู้สึกผ่านการตีความบทเพลงลูกกรุงยอดนิยมอมตะให้มีชีวิตโลดแล่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
.
หากย้อนกลับกันไปจริงๆ นื่คือหนึ่งในบทเพลงยุคสุดท้ายของยุคเพลงลูกกรุงของไทยที่อยู่ในกระแสสมัยนิยมช่วงต้นยุคทศวรรษที่ 2520 ก่อนถูกแนวเพลงวัยรุ่นยุคใหมที่เรียกว่า เพลงสตริง ดิสรัปต์ตีตกยุคไปในอีกไม่นาน
.
เพียงพิศ ศิริวิไล (เลิศวิไล) เป็นผู้ขับร้องบทเพลงต้นฉบับ จากฝีมือการแต่งคำร้อง/ทำนอง ว. วัชญาน์ ต่อมาก็มีนักร้องนำมาขับร้องใหม่เพื่อฟื้นและต่อชีวิตบทเพลงลูกกรุงให้ร่วมสมัย เอาใจคนฟังกลุ่มโอลดีสูงวัย ไม่ว่าจะเป็น อรวี สัจจานนท์ / ฝน ธนสุนทร / ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ / นิตยา บุญสูงเนิน / กวาง The Golden Song
.
อย่างที่กล่าวในตลาดเพลงไทยร่วมสมัย กลุ่มคนฟังเพลงลูกกรุงเป็นตลาดเพลงแช่แข็งที่มุ่งฟังเสียงจากอดีตต้นฉบับดั้งเดิม รวมถึงการนำบทเพลงเก่ายอดนิยมอยู่ในความทรงจำมาขับร้องใหม่ โดยไม่มีการสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ออกมาอีกแล้ว หยุดนิ่งอยู่กับกาลเวลา มีแค่การโหยหาอดีตวันชื่นคืนสุขเท่านั้น
.
การที่มีอัลบั้มแนวเพลงลูกกรุงออกมาใหม่เอี่ยมสักชุด จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เหมือนเจอบ่อน้ำกลางทะเลทรายก็ว่าได้
ค่ายเพลงใบชาซอง โดย บรรณ สุวรรณโณชิน น่าจะเป็นค่ายเพลงเดียวที่ชัดเจนในการทำตลาดเพลงลูกกรุงโอลดีออกมา โดยเฉพาะเพลงใหม่สายนักร้องหญิง ในสไตล์ลูกกรุงร่วมสมัย ซึ่นเน้นหนักย้ำในการที่ผลิตบทเพลงและทำดนตรีร่วมสมัยออกมา
.
ความสำเร็จมากที่สุดก็คือ อัลบั้ม ‘ต้นฉบับเสียงหวาน’ โดย สวีทนุช- วรนุช กนกากร ที่สร้างลูกกรุงร่วมสมัยผ่านเสียงนักร้องในรุ่นนั้น ด้วยลีลาการเขียนเพลงที่มีลีลาของคำและความรู้สึกในยุคต้นทศวรรษ 2550 ได้เป็นอย่างดี จนบทเพลง ‘รักยุคไฮเทค’ กลายเป็นหมุดหมายของเพลงลูกกรุงสมัยใหม่ในยุคหลังสุดที่สามารถขึ้นเป็นกระแสหลักได้
.
จากความสำเร็จตรงนั้นค่ายใบชาซองได้ผลิตงานเพลงในสายลูกกรุงร่วมสมัยออกมาอย่างต่อเนื่อง จากการคัดสรรจอง บรรณ สุวรรณโณชิน ที่เหมาทั้งแต่งเพลง โปรดิวซ์เองอย่างครบวงจร ซึ่งน่าจะบอกได้ว่า เขาสถาปนาหมวดหมู่เพลงลูกกรุงร่วมสมัยยุคใหม่ขึ้นมาได้ในสกุลใบชาซอง
.
อย่างที่บอก หากจะกล่าวถึงวัฒนธรรมดนตรีสมัยนิยมและยอดนิยมผ่านบทเพลงลูกกรุง ยุคสมัยของบทเพลงเหล่านี้ได้ผ่านไปกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว
.
เมื่อย้อนกลับไปมองเพลงลูกกรุง ในฐานะเพลงไทยสากลประเภทหนึ่ง โดยเป็นเพลงที่บอกเล่า ถ่ายทอดความรู้สึกของสังคม และคนเมืองหลวง ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
.
การถ่ายทอดอารมณ์ การขับร้องน้ำเสียง ของกลุ่มนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีจะมีรูปแบบ ประณีตละเอียดอ่อน ออกมานุ่มนวล เนื้อร้องจะมีลักษณะเป็นร้อยแก้ว ร้อยกรอง มีความหมายสลับซับซ้อน ยอกย้อน
.
การขึ้นเป็นดนตรีกระแสหลักในสมัยนิยมเกิดขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2482 เมื่อวงสุนทราภรณ์ก่อตั้งเป็นวงดนตรีวงใหญ่หรือวงบิ๊กแบนด์ แบบดนตรีตะวันตกในยุคคลาสสิค สวิงแจ๊ซกำลังเบ่งบาน ซึ่งทำให้สังคมเมืองในยุคนั้น เริ่มตื่นตัวการฟังเพลง ผู้ฟังและค่ายเพลงต่างๆ เริ่มจัดประเภทเพลง สร้างนักร้องให้มีรูปแบบความเป็นคนเมืองหลวง นักดนตรี นักแต่งเพลงนักร้องต่างมีรูปแบบ หาแฟชั่นนำสังคม ทั้งเรื่องการแต่งกาย มีคลับมีบาร์ แถวถนนราชดำเนิน ตามย่านชุมชน โรงแรมใหญ่ๆ มีห้องบอลรูมเพื่อให้มีการจัดแสดงดนตรีประกอบ
.
ว่าไปแล้วจากยุคสุนทราภรณ์เป็นต้นมา บทเพลงลูกกรุงได้ยึดครองความนิยมในฐานะเทรนด์ของยุคสมัยทางดนตรีในนครบาลหรือกรุงเทพฯ มาอย่างสง่าผ่าเผย โดยเฉพาะย่านถนนราชดำเนินกลางที่มีไนท์คลับที่เป็นสถานที่บรรเลงรมย์
.
ความเบ่งบานสุดท้าย หลังจากบทเพลงลูกกรุงมาสู่ความบันเทิงยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ และถูกคลื่นลูกใหม่อย่างเพลงสตริงตีแตกตกยุค แต่การออกอัลบั้มก็ยังมีอยู่ประปราย ซึ่งกลายเป็นเพลงลูกกรุงที่มีกลิ่นอายไนท์คลับอารมณ์ชิงรักหักสวาทเพื่อตอบสนองนักร้องและแขกผู้มาฟังเพลงมากกว่าเพลงลูกกรุงยุคแรกที่มีความโรแมนติกและความสดของความรักหนุ่มสาวแห่งยุคสมัยอยู่
.
อย่างที่กล่าว ตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 2540 เป็นต้นมา สามารถพูดได้เต็มปากว่า ‘เพลงลูกกรุงตายแล้ว’ ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่โอลดีเป็นเพลงเพื่อการอนุรักษ์เพลงเก่าไป ไม่มีชีพจรทางดนตรีในความร่วมสมัยอีกต่อไป ยิ่งคาเฟ่ที่เคยมีพื้นที่รองรับเพลงลูกกรุงแบบอ้อนเสี่ยน้ำตาเมียน้อยส่วนเกินเมียหลวงตัดพ้อล้อรักอยู่บ้างล้มหายตายจากไป
.
เพลงลูกกรุงก็เหลือพื้นที่บันเทิงแบบคนสูงวัยร้องคาราโอเกะไปเพื่อความบันเทิงรำลึกอดีตแสนหวาน ยังดีอยู่บ้างที่กระทรวงที่รับผิดชอบอย่างกระทรวงวัฒนธรรม และกรมประชาสัมพันธ์อุ้มชูจัดคอนเสิร์ตประจำปีอยู่เนืองๆ ส่วนนักร้องที่เป็นระดับมหาดาราในยุคลูกกรุงก็มีคอนเสิร์ตตัวเองปีละครั้งสองครั้งเพื่อสนองความต้องการของแฟนเพลงตัวเองตามอายุที่ล่วงเลย
.
เพราะฉะนั้นการที่ ปาน-ธนพร แวกประยูร ในฐานะนักร้องป็อปสตาร์ในยุคทศวรรษที่ 2540 เป็นต้นมา ที่หายเงียบหลุดวงโคจรไม่มีอัลบั้มออกมาถึง 10 ปี หรือ 1 ทศวรรษแล้ว ขยับตัวเองมาขับร้องในแนวลูกกรุงและออกอัลบั้มเต็มมา จึงน่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะชื่อชั้นของปานในฐานะนักร้องคุณภาพระดับมืออาชีพและอยู่ในตลาดเพลงยอดนิยมมายาวนาน การันตีชื่อเสียงและชั่วโมงบินของเธอได้ดีว่าน่าคาดหวังเป็นอย่าสูง
.
ในฐานะนักร้องเดี่ยว ปาน-ธนพร ใช้เวลา 1 ทศวรรษในการยืนระยะ พิสูจน์ว่าเป็นของจริงตั้งแต่ปี 2543 จากอัลบั้มชุดแรกที่ใช้ชื่อตัวเองขับเน้นตัวตนผ่านเสียงร้องออกมา เดบิวต์หรือเปิดตัวด้วยชุด ‘ปาน ธนพร’ ซึ่งกระแสตอบรับจากคนฟังจากน้ำเสียงที่มีคุณภาพและมีพลังอย่างโดดเด่นและถูกจดจำ
.
อาร์เอส โปรโมชัน ซึ่งเป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของไทยในยุคนั้นให้ทีมแต่งเพลงและดนตรีเลือกบุคลิกการนำเสนอให้ ปาน-ธนพร เป็นตัวแทนหรือกระบอกเสียงของผู้หญิงร้ายผู้ชายรัก
.
ตรงไปตรงมากับความรักและพร้อมที่จะซัดตรงๆ ผ่านการเขียนเพลงที่เสนอภาพของด้านมืดของความรักชายหญิงมาตีแผ่ด้วยน้ำเสียงสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกผ่านการตีความของปานเข้าถึง พร้อมกับสร้างมิวสิกวิดีโอหรือเอ็มวีในแบบมิวสิกซีรีส์ให้นักดูเพลงได้ชมเรื่องเล่าของเพลงไปด้วย
.
นับเป็นจุดขายที่แข็งแรงมีบุคลิกของเพลงที่ชัดเจน นอกจากเสียงร้องที่ดีมีคุณภาพเป็นพื้นฐานอยู่และสามารถยืนระยะมาได้ถึง 1 ทศวรรษ หากนับอัลบั้มสุดท้าย ‘PARN@Prime Time’ ในปี 2553 โดยไม่รวมซิงเกิลสุดท้ายในปี 2555 บทเพลง ‘เพื่อนในฝัน พรุ่งนี้ไม่มีจริง’
.
จนมาถึงวันนี้ผ่านไปถึง 1 ทศวรรษ ถึงปี 2565 ไม่น่าเชื่อว่า ปาน-ธนพร ไม่มีอัลบั้มออกมาเลย เหมือนโดนกาลเวลาดูดกลืนไปกับมหาสมุทรเพลงในยุคดิจิทัลออนไลน์สตรีมมิง
.
ว่าไปแล้ว ปานนับได้ว่าเป็นรุ่นสุดท้ายที่รุ่งเรืองจากอุตสาหกรรมดนตรียุค 2.0 ของเมืองไทย ผ่านค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่เน้นด้านโปรโมชั่นผ่านคลื่นวิทยุและเอ็มวีเป็นหลักในการสร้างกระแสความนิยมในตัวเพลง
.
พูดด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ ปาน-ธนพร ข้ามพ้นกลุ่มคนฟังที่จำกัดในสายเพลงป็อปมาสู่ตลาดวงกว้างในระดับฐานรากกับคาราบาวคณะดนตรีเพื่อชีวิตอันดับ 1 ของไทย ต้องยกให้อัลบั้มชุดเฉพาะกิจที่ออกมาในปี 2548 ‘หนุ่มบาว-สาวปาน’ ซึ่งปาน-ธนพร ขับร้องได้ท็อปฟอร์มมาก ได้กลืนกลายตัวเองไปสู่กลุ่มคนฟังเพลงเพื่อชีวิต ประสบความสำเร็จทั้งยอดขายรายได้และเสียงชื่นชมที่สามารถนำเพลงเพื่อชีวิตไปสู่อีกมิติหนึ่งได้อย่างสวยงาม จนมีอัลบั้มตามมาในปี 2552 ‘บาว-ปาน (รีเทิร์น)’ ซึ่งเดินตามรอยทางเป็นภาค 2 ของชุดแรก
.
ความสำเร็จจุดนี้ของปานทำให้เธอยิ่งมั่นคงและทะลุขึ้นสู่อีกระดับหนึ่ง ก่อนจะเฟดหายไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางด้านการฟังเพลงสู่ยุคดิจิทัลสตรีมมิง
.
กลับมาสู่ปัจจุบัน อัลบั้ม ‘ดอกไม้ที่กลับมา’ จึงเป็นความท้าทายอีกครั้งที่ ปาน-ธนพร จะเคลื่อนย้ายจักรวาลนำตัวเองไปสู่แนวเพลงลูกกรุงที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังให้พลิกฟื้นตื่นขึ้นมามีชีวิตอีกครังด้วยน้ำเสียงและแก้วเสียงของเธอ ซึ่งเป็นการครอสโอเวอร์อีกครั้งในการข้ามสายมาร้องเพลงในอีกโสตหนึ่ง
.
ในฐานะนักร้องที่เรียนขับร้องมาโดยตรงและผ่านการการันตีคุณภาพมาแล้วยาวนาน จนปัจจุบันก็เป็นอาจารย์สอนขับร้องอยู่แล้ว ถือเป็นนักร้องรุ่นกลางกึ่งใหญ่ในโลกดนตรีร่วมสมัยของไทย ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากเกินหรือเหลือบ่ากว่าแรงมากนัก
.
บรรณ สุวรรณโณชิน ซึ่งทำงานนั่งควบเกือบทุกตำแหน่งในอัลบั้มชุดนี้ ได้แสดงถึงวิสัยทัศน์และรสนิยมทางดนตรีในแนวลูกกรุงของเขาที่สั่งสมมาจากประสบการณ์การฟังและการเล่นในอดีต มาสู่การเขียนเนื้อเพลงทำนอง เรียบเรียงดนตรี เล่นดนตรี บันทึกเสียง
.
มาว่ากันด้วยการร้องและการตีความอารมณ์เพลงทั้งหมดของปาน-ธนพรในอัลบั้มชุดนี้ที่ร้อง 11 เพลง และมี 1 เพลงปิดท้ายชื่อว่า ‘เหงา’ เป็นเพลงบรรเลงชิ้นดนตรี (Instrumental)
.
การร้องเพลงแบบลูกกรุงก็คือ โวคอล (Vocal) ในประเภทของการขับร้องที่มีพื้นฐานมาจากดนตรีคลาสสิก ละครเพลง โดยประยุกต์มาจากดนตรีสมัยนิยมของตะวันตก ไม่ว่าอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งเป็นที่นิยมกันในยุคทศวรรษที่ 1950-1960 ไม่ว่าจะเป็นสแตนดาร์ด ป็อป / เทรดิชัน ป็อป / โชว์ ทูน / สวิงและบิ๊กแบนด์ ที่มีพื้นฐานมาทางแจ๊ซ ถูกนำมาเลียนอย่างประยุกต์ดัดแปลงให้เป็นเพลงลูกกรุงของไทย
.
การเขียนเนื้อร้องนั้น เนื่องด้วยข้อจำกัดทางด้านการออกเสียงของภาษาไทย ทั้งเรื่องลักษณะของคำเป็น-คำตายที่กำหนดความสั้นยาวและการเปิดปิดของคำเสียงสูง-ต่ำของวรรณยุกต์ที่เป็นตัวกำหนดการเอื้อนโน้ต ตำแหน่งการวางเสียงของคำในภาษาไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และช่วงกว้างของเสียงในบทเพลงลูกกรุงที่กว้างกว่าเพลงปกติทั่วไป ผนวกกับแนวคิดตามหลักสรีรวิทยาการขับร้องเพลงสากลที่ว่า สีสันของเสียงร้องที่แตกต่างกันเป็นผลลัพธ์การวางตำแหน่งเสียง (Vocal Placement) และการใช้อวัยวะในการออกเสียงคำร้อง (Vocal Articulator) และอวัยวะในการสร้างเสียงกังวาน (Vocal Resonator) ที่เหมาะสมกับลักษณะการออกเสียงคำร้องในภาษาไทยที่ต้องควบคุมทั้งปริมาณ ความเร็ว และความต่อเนื่องของลมหายใจที่ใช้ในการขับร้องอย่างมีประสิทธิภาพ
.
บรรณ สุวรรณโณชิน แต่งเนื้อร้องในรูปแบบของตัวเองที่ได้รับอิทธิพลของดนตรีและบทเพลงลูกกรุงยุคสุดท้ายคือช่วงยุคทศวรรษที่ 2520 ได้อย่างแตกฉาน จุดเด่นคือการเรียบเรียงดนตรีและเข้าใจทำนองเพลงที่นำมาใช้เป็นพาหะอุ้มอารมณ์ความรู้สึกของเนื้อเพลง ความหมายและการขับร้อง การเรียบเรียงดนตรีและเสียงประสาน รวมถึงการบันทึกเสียงถือเป็นความยอดเยี่ยมอีกอย่างหนึ่ง มิติลึกของเสียงเครื่องสายและเครื่องเป่าทำให้สีสันของเสียงทั้งหมดเด้งโดดรับเสียงร้องที่เน้นพลังความรู้สึกและอารมณ์เพลงได้บรรสานสอดรับลงตัวดีเด่น
.
หัวใจทางดนตรีของบทเพลงลูกกรุงคือท่วงทำนองตะวันตกที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย ทั้งรูปแบบจังหวะ รูปประโยคเพลง ทิศทางของประโยคเพลง ช่วงกว้างเสียง ช่วงกว้างขั้นคู่ เพื่อนำมาสู่คำร้อง ความหมายของบทเพลง และคำร้องแต่ละคำเพื่อให้เกิดความเข้าใจคำร้องอย่างลึกซึ้งในการตีความบทเพลงที่มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจให้เกิดความหลากหลายของเสียงร้อง และลักษณะการประสมคำไทยจากคำร้องเพื่ออธิบายเรื่องเทคนิคการออกเสียงคำร้อง
.
เมื่อดูลักษณะการร้องของนักร้องลูกกรุงจากอดีตอันรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้ง วิธีการขับร้องของนักร้องในยุครุ่งเรือง พ.ศ. 2500-2520 ค้นพบว่านักร้องล้วนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขับร้องซึ่งมีรากฐานมาจากการขับร้องเพลงคลาสสิกทั้งสิ้น ทำให้เห็นว่าในกระบวนการหายใจ กระบวนการเปล่งเสียง และกระบวนการสร้างเสียงกังวานของการขับร้องบทเพลงลูกกรุงนั้น มีความคล้ายคลึงกับการขับร้องเพลงคลาสสิกเป็นอย่างมาก หากแตกต่างกันในกระบวนการ
.
สำหรับกระบวนการออกเสียงคำร้อง ซึ่งให้ความสำคัญกับความชัดเจนของการออกเสียงคำร้องให้ถูกต้องตามอักขระของภาษาไทยของ ปาน-ธนพร ล้วนได้มาตรฐานที่สูงและไพเราะเปี่ยมด้วยอารมณ์เพลงที่สะท้อนสะท้านความรู้สึกออกมา ในบทเพลงที่ 5 ของอัลบั้มที่ชื่อ ‘ความเหงาเคล้าความขมขื่น’ แค่ประโยคส่งท้ายคำว่า ฝนโปรย ที่ลากเสียงยาวลึกซึ้งลำล้วงไปสู่ความรู้สึกเหงาที่ลากความช้ำชอกออกมาในบรรยากาศให้หมองเศร้าเคล้าสายฝนที่ประดุจน้ำตา
.
อัลบั้ม ‘ดอกไม้ที่กลับมา’ สามารถแบ่งเพลงออกได้เป็น 2 ส่วน คือบทเพลงเก่าในระดับมหายอดนิยมเหนือกาลเวลานำมาร้องใหม่ คือ ‘รักฝังใจ’ และ ‘ไฟเสน่หา’ ซึ่งคาดเดาว่าเปรียบเสมือนการแสดงความคารวะต่อนักแต่งเพลงที่ส่งอิทธิพลและแรงบันดาลใจให้กับ บรรณ สุวรรณโณชิน ที่เลือกมาให้ ปาน-ธนพร ตีความร้องใหม่และดีเด่นไปอีกทางจากต้นฉบับดั้งเดิม โดยเฉพาะมิติทางดนตรีและการบันทึกเสียง
.
มีบทเพลงใหม่ที่เขียนโดยศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2559 ศักดิ์สิริ มีสมสืบ และเป็นกวีซีไรต์ปี 2535 ‘ดวงตาสวรรค์’ ซึ่งองค์ประกอบโดยรวมทุกอย่างดีมากทั้งเนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี เสียงประสาน และการตีความการร้องที่นำบทเพลงลูกกรุงพลิกฟื้นจิตวิญญาณสู่ความร่วมสมัยอีกครั้งหนึ่ง ด้วยรสคำแบบกวีและจินตภาพ
.
ที่เหลือเป็นบทเพลงของบรรณที่บอกได้คำเดียวว่า เข้าใจในทางเพลงลูกกรุงยุคสุดท้ายในแนวทางยอดนิยมของตลาดยุคทศวรรษ 2520 ได้อย่างเด็ดขาดและหมดจด ลายเซ็นในการเขียนเพลงของบรรณที่มีลูกเล่นก็คือ อารมณ์ขันที่เล่นกับคำและความหมายที่แทรกคั่นบทเพลงที่โรแมนติกฟุ้งรักหลากอารมณ์ รวมถึงการเลือกใช้ท่วงทำนองที่นำมาใส่อย่างชาญฉลาดเพื่อเป็นพาหะเดินสู่จินตภาพและความหมายของเพลง
.
บทเพลงคู่ ‘คุณจะรักฉัน’ ที่ได้นักร้องเสียงระดับครูนเนอร์ นุ่มนวลอบอุ่นชวนฝันเต็มพลัง ทวีพร เต็งประทีป ที่มาบรรสานร้องโต้ตอบสอดรับกับ ปาน-ธนพร อย่างงดงาม
.
คงไม่ต้องสาธยายกันมากว่า นี่คืออัลบั้มเพลงลูกกรุงร่วมสมัยที่เป็นงานใหม่สามารถดึงเวลาจากอดีต สุนทรียรสจากอดีตมาสู่ความหวานชื่นของยุคปัจจุบันได้อย่างรื่นรมย์และเปี่ยมคุณภาพทั้งเสียงร้อง ดนตรี และการบันทึกเสียง
.
ไม่ว่าจะชอบเพลงลูกกรุงหรือไม่ แต่เป็นอัลบั้มที่จะได้เสพสุนทรียรสของหัวใจในดนตรีและบทเพลงสมัยนิยมที่ครองโสตคนฟังในยุคทศวรรษที่ 2500-2520 เป็นความงามของอดีตที่มาผลิบานในกลางทศวรรษที่ 2560 อีกครั้งหนึ่ง
.
#อ่านต่อ : http://bit.ly/3ErA7Ug
เรื่องโดย: พอลเฮง
คอลัมน์ บันเทิงมั้ยล่ะ
"ท่องไปในจักรวาลเพลง ดนตรี และศิลปวัฒนธรรมแขนงต่างๆ ทั้งที่อยู่ในกระแสร้อนและย้อนสู่ผลงานคลาสสิกขึ้นหิ้ง"
━━━━━━━━━━━━━━━
╔═══════════════╗
หนังสือดี บทความคุณภาพสุด Exclusive
อ่านครบรส สด! ใหม่! ทุกวันที่ 2read
.
สมาชิกใหม่รับทันที 30 เหรียญ #อ่านฟรี
ดาวน์โหลดได้ทั้ง App store และ Play store คลิกลิงก์นี้เลย! https://bit.ly/3bQtbiV
╚═══════════════╝
━━━━━━━━━━━━━━━
#2read #2readรสชาติที่คุณอ่านได้ #อ่านครบรสจบในแอปเดียว
#บันเทิงมั้ยล่ะ #HouseoftheDragon #TheBlackQueen